วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เสือโคร่ง


เสือโคร่ง

เมื่อเอ่ยคำว่า "เสือ" ขึ้นมาเพียงคำเดียว ทุกคนคงจะนึกถึงเสือโคร่งเป็นอันดับแรก เพราะเสือโคร่งเป็นเสือที่ผู้คนรู้จักกันมากที่สุด มีลายพาดกลอนไม่เหมือนเสือชนิดอื่น รูปร่างสง่างาม ใหญ่โตกำยำ จึงเป็นตัวแทนของเสือทั้งมวล ในทวีปเอเชียเสือโคร่งได้รับการยกย่องให้เป็นจ้าวป่า เช่นเดียวกับที่สิงโตที่ครองตำแหน่งเป็นจ้าวแห่งท้องทุ่งในทวีปแอฟริกา
มีเรื่องเล่าและตำนานมากมายเกี่ยวกับเสือโคร่ง มันมักถูกเล่าขานในด้านความน่าสะพรึงกลัว น่าเกรงขาม หรือน่าเกลียดชังในฐานะ "สัตว์กินคน" รวมถึงความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับอำนาจลึกลับที่อยู่ในตัวเสือโคร่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างเสือโคร่งกับมนุษย์
อย่างไรก็ตาม เราเพิ่งจะทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเสือโคร่ง ทั้งด้านชีววิทยา การกินอยู่และอุปนิสัยของเสือโคร่งหลังจากมีการสำรวจอย่างจริงจังเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เท่านั้น ข้อเท็จจริงหนึ่งที่เราได้พบคือ จ้าวป่าชนิดนี้กำลังใกล้สูญพันธุ์ เพียงช่วงศตวรรษที่ผ่านมามีเสือโคร่งที่สูญพันธุ์ไปแล้วถึง 3 พันธุ์จากจำนวน 9 พันธุ์ และเสือโคร่งที่เหลืออยู่ก็ลดจำนวนลง ทัศนคติที่ดีและความเข้าใจที่ถูกต้องเท่านั้น ที่จะนำไปสู่การอนุรักษ์อย่างถูกทาง พวกเราทุกคนจึงควรทำความรู้จักกับเสือโคร่งให้ดียิ่งขึ้น ก่อนที่จะไม่มีเสือโคร่งเหลือให้รู้จัก

ลักษณะทั่วไป


เสือโคร่ง
เสือโคร่งเป็นสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เสือไซบีเรียซึ่งเป็นเสือโคร่งพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดมีน้ำหนักตัวถึงเกือบ 500 กก. ลำตัวมีสีเหลืองแดงหรือสีขมิ้น มีแถบสีดำหรือน้ำตาลพาดตามลำตัวตลอดในแนวตั้ง บริเวณหน้าอก ส่วนท้องและด้านในของขาทั้งสี่มีสีขาวครีม บางตัวอาจมีสีออกเหลือง มีกระบอกปากค่อนข้างยาว เสือโคร่งตัวผู้มีลักษณะเด่นที่ขนที่หลังแก้มทั้งสองด้านซึ่งจะยาวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเสือโคร่งพันธุ์สุมาตรา บริเวณจมูกมีสีชมพู ในบางตัวอาจมีสีดำปะปนเป็นแต้ม ๆ ม่านตาสีเหลือง รูม่านตากลม หูสั้นและกลม หลังหูมีสีดำและมีแต้มสีขาวเด่นชัดอยู่กลางใบหู ขาหน้าของเสือโคร่งจะบึกบึนและแข็งแรงกว่าขาหลัง ฝ่าตีนกว้าง หางยาวประมาณครึ่งหนึ่งของลำตัว ปลายหางเรียว ลายดำที่หางมีลักษณะทั้งริ้วและปล้องปนกัน ปลายหางมักจะเป็นสีดำ เสือโคร่งใช้หางช่วยรักษาสมดุลของร่างกายขณะหันตัวอย่างฉับพลัน นอกจากนี้ยังใช้ในการสื่อสารกับเสือตัวอื่นด้วย
ตีนหน้าของเสือโคร่งจะมีนิ้วอยู่ข้างละ 5 นิ้ว ส่วนตีนหลังมีข้างละ 4 นิ้ว เล็บสามารถหดเก็บไว้ในอุ้งได้ ทำให้สามารถเดินได้อย่างเงียบกริบ รอยตีนของเสือโคร่งจึงไม่ปรากฏรอยเล็บ
ลายพาดกลอนของเสือโคร่งแต่ละตัวมีความแตกต่างกันมาก และไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่ตัวเดียว แม้แต่ลายทั้งสองข้างของลำตัวและลวดลายด้านข้างของใบหน้าของเสือแต่ละตัวก็มีลายไม่เหมือนกัน จุดสังเกตของแถบบนตัวเสือโคร่งคือ จำนวนแถบ ความกว้างของแถบ และการขาดของแถบกลายเป็นจุด อย่างไรก็ตาม เส้นสีดำเหนือลูกตาทั้งสองข้างค่อนข้างจะสมมาตรกัน เสือโคร่งพันธุ์สุมาตรามีริ้วลายมากที่สุด ส่วนเสือโคร่งพันธุ์ไซบีเรียมีลายน้อยที่สุด
ขนาดและน้ำหนักของเสือโคร่งแต่ละพันธุ์มีความแตกต่างกันมาก เสือไซบีเรียตัวผู้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงที่สุด มีความยาวลำตัวเกิน 10 ฟุต และหนักกว่า 300 กิโลกรัม ในขณะที่เสือโคร่งพันธุ์สุมาตราตัวเมียมีความยาวลำตัวสั้นกว่าถึง 3 ฟุต และมีน้ำหนักน้อยเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น
เสือที่อยู่ในเขตหนาว เช่นเสือไซบีเรีย และเสือแคสเปียนในในเตอร์กิสถานและคอเคซัส มีขนในฤดูหนาวและในฤดูร้อนแตกต่างกันมาก ในฤดูหนาว ขนของมันจะยาวและแน่นมากจนดูทับกันเป็นปึก ในขณะที่สีสันก็จะจางซีดกว่าขนในฤดูร้อนด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น