วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กุ้งบลูลอบสเตอร์ ( cherax quadricarinatus )

กุ้งบลูลอบสเตอร์ ( cherax quadricarinatus )

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Cherax quadricarinatus (Red Claw, Blue Lobster, Rainbow)
ชื่ออื่นๆ : Blue Lobster , Australian Crayfish
แหล่งกำเนิด : Queensland Australia
ขนาดตัว : 20-26 ซ.ม. (8-10 นิ้ว)
อุณหภูมิน้ำ : 24-28° C
ค่า pH : 6.5-7.5
อุปนิสัย : ดุร้าย ก้าวร้าว
ระดับความยากในการเลี้ยง : ง่าย

Cherax quadricarinatus เป็นกุ้งเครฟิชที่มีมานานในบ้านเรา เรียกได้ว่าเป็นกุ้งเครฟิช “ ครู “ อีกชนิดหนึ่งเลยเหมือนกัน ซึ่งมีหลายๆคนนิยมเลี้ยง เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย และ มีจำหน่ายมากมายหลายสถานที่กว่าพันธุ์อื่นๆ ในสายเดียวกัน และเนื่องจากเป็นกุ้งเครฟิช ที่ปรับตัวได้ดี ในสภาพภูมิอากาศบ้านเรา ทำให้สามารถเลี้ยงได้ผลผลิตค่อนข้างดี ในหลายๆจังหวัดในบ้านเรา จึงทำให้มีลูกกุ้งเครฟิชชนิดนี้จำหน่ายได้มากนั้น่เอง ในบ้านเรามักเรียกกุ้งชนิดนี้ว่าว่ากุ้งบลูล็อบเตอร์หรือกุ้งเรนโบว์ โดยถ้ามีลำตัวออกสีน้ำเงินจะนิยมเรียกว่าบลูล็อบเตอร์ แต่ถ้าสีออกน้ำตาลจะเรียกว่าเรนโบว์ ซึ่งในส่วนของเรื่องสีสันนั้น กรรมพันธุ์ของกุ้ง และ สภาพแวดล้อมในการเลี้ยง รวมทั้งอาหารที่ให้ จะทำให้มีผลต่อสีของกุ้ง การเลี้ยงกุ้งชนิดนี้รวมกันหลายๆตัวในตู้เดียว ผู้เลี้ยงควรจะจัดหาที่หลบซ่อนอย่างพอเพียงเพื่อลดโอกาสการต่อสู้กัน เนื่องจากเป็นกุ้งขนาดใหญ่ ดังนั้น ผู้เลี้ยงก็ควรจะเตรียมพื้นที่ในการเลี้ยง ให้กว้างกว่า กุ้งเครฟิช อีกหลายๆชนิดของบ้านเราไว้ ก็จะเป็นการดี อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงในตู้กระจก หรือ ตู้ปลา อาจจะทำให้ได้กุ้งที่มีขนาดใหญ่ได้ช้ากว่า การเลี้ยงในระบบฟาร์ม แบบบ่อดิน เนื่องจากการมีแร่ธาตุต่างๆ ที่น้อยกว่า 

ข้อแนะนำในการเลี้ยง :
ไม่แนะนำให้เลี้ยงรวมกับปลา เครฟิชอาจจับปลากินเป็นอาหาร และการเลี้ยงร่วมกับ ตู้ไม้น้ำ จะทำให้ท่านผู้เลี้ยงปวดตับ ตับ ตับ ตับ ได้ เนื่องจากตู้ไม้น้ำสวยๆ จะกลาย เป็นรังวัชพืช พอที่จะให้ปลากระดี่ ก่อหวอดได้อย่างง่ายดาย ชนิดใหนที่ตัดแล้วจม ก็เข้าปากกุ้ง ชนิดใหนที่ตัดแล้วลอย ก็เหมาะในการให้ปลากระดี่ มาใช้ก่อหวอดนั่นเอง ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรจะจัดตู้ด้วยหินก้อนกรวดมน เหมือนในลำธาร หรือ ตู้ประกอบหินชนิดต่างๆ ได้ตามชอบใจ ยกเว้น หินเคลือบสีสวย ๆ ไม่แนะนำครับ เพราะอาจจะมีสารเคมีลงไปในตู้ได้ แต่ระวังการจัดตั้งหินให้ก่อเป็นรูปขึ้นมา เพราะกุ้งอาจจะขุด หินทำรัง ทำโพรง ขุดเพลินๆ เหมือนการขุดท่อกทม จนก้อนหินที่วางซ้อนๆกันไว้ อาจจะตกมาทับตัวกุ้งเองถึงตายได้เช่นกัน 

อาหาร :
โดยปรกติกุ้งเครฟิชสามารถกินอะไรก็ตามที่มันหาเจอทั้งพืชและสัตว์ ผู้เลี้ยงอาจเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดสำหรับกุ้ง, หนอนแดง, ผักต้มต่าง ๆ เช่น แครอท, มันฝรั่ง, แตงกวา ฯลฯ สามารถให้การบำรุงด้วยวิตามินน้ำ หรือ แคลเซียม แร่ธาตุของกุ้ง ที่มีมากมายหลายยี่ห้อในตลาด ได้ตามปกติครับ เพราะเนื่องจาก เมื่อกุ้งตัวใหญ่มากๆ การเสริมแร่ธาตุ และวิตามิน รวมถึง คุณภาพอาหารที่ให้ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการลอกคราบของกุ้งครับ 

การขยายพันธุ์ :
กุ้งชนิดนี้ สามารถเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่อกุ้งเริ่มมีขนาด 4-5 นิ้วขึ้นไป โดยตัวเมียจะใช้เวลาฟักไข่จนออกเป็นตัวประมาณ 30 วัน โดยอัตราเฉลี่ย จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในขณะนั้นครับ

อื่นๆ :

เสน่ห์ของกุ้งชนิดนี้ ส่วนใหญ่ จะเป็นรูปร่างที่สวยงามใหญ่โต ในช่วงที่โตเต็มวัย จะดูอลังการ งานสร้างมากๆ โดยเฉพาะ ตัวผู้ มักจะมีขอบสีส้มๆ ตัดที่ในส่วนก้ามหนีบ ดูแล้วสวยงาม มีเสน่ห์มากครับ ซึ่งตัวของผู้เขียนเอง เคยได้เห็นฟาร์มเพาะพันธุ์กุ้ง นำกุ้งชนิดนี้ มาโชว์ในงานแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปลา นับว่า ดึงดูดสายตาผู้คนได้มากทีเดียวครับ โดยเฉพาะ เด็กๆ บางคนพูดว่า อยากกินต้มยำกุ้ง , กุ้งเผา บ้างก็มี ไม่รู้ว่าชอบกุ้งชนิดนี้ หรือดูไปแล้ว อยากกินกุ้งกันแน่ ( ฮา ) แต่เอาเป็นว่า โต ขึ้นแล้ว สวย แน่ครับ สำหรับกุ้งชนิดนี้ ผู้รักชอบ การเลี้ยงกุ้งเครฟิช น่าจะมีเอาไว้ในครอบครองกันมาก เพราะหาซื้อได้ง่าย ก็ขอให้มีความสนุกกับการเลี้ยง กุ้งชนิดนี้นะครับ อ้อ ปัจจุบันได้มีการพัฒนากุ้งชนิดนี้ จนบางที ได้สีสันที่ออกเป็นสีโทนขาวๆ ก็มีนะครับ แต่เท่าที่ดูแล้ว อาจจะยังไม่นิ่งเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเลี้ยงจนโตใหญ่ แล้วมีสีขาวบริสุทธิ์ได้นี่ ก็คงสวย และ ราคา “ แรงงงง !!!! “ พอสมควรเลยล่ะครับ สำหรับในตลาดซื้อขายกุ้งสวยงาม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น